ติดรีเลย์เพิ่มกำลังไฟ? รีเลย์
( Relay
)
ทำไมต้องติด?
- ไฟหน้าไม่สว่าง อยากให้สว่างกว่านี้
- แตรดังไม่ชัดอยากเปลี่ยนไปใช้แตรเสียงดังๆ
ปัญหาที่เกรินนำ แก้ไขได้ด้วยการต่อเพิ่มรีเลย์เข้าไปในระบบไฟฟ้าของรถท่าน
ทำไมต้องติด?
- ไฟหน้าไม่สว่าง อยากให้สว่างกว่านี้
- แตรดังไม่ชัดอยากเปลี่ยนไปใช้แตรเสียงดังๆ
ปัญหาที่เกรินนำ แก้ไขได้ด้วยการต่อเพิ่มรีเลย์เข้าไปในระบบไฟฟ้าของรถท่าน
รีเลย์...
รีเลย์ที่ใช้งาน แนะนำของboschแท้ เท่านั้น ราคาประมาณ1ร้อยปลายๆ ของเทียมไม่แนะนำเพราะไม่คุ้มเสี่ยง
รีเลย์ที่ใช้งาน แนะนำของboschแท้ เท่านั้น ราคาประมาณ1ร้อยปลายๆ ของเทียมไม่แนะนำเพราะไม่คุ้มเสี่ยง
Socket
ใช้ควบคู่กับ ซอคเก็ต( Socket ) เป็นเสมือนที่เสียบสายไฟเข้าไปหาตัวของ รีเลย์
สายไฟ...
สายไฟฟ้าที่ใช้เดินมีหลายขนาด สายเล็กใช้เดินจากสวิทซ์มาเลี้ยงคอลย์รีเลยเพราะกินไฟน้อยแทบไม่รู้สึกอะไร แต่สายที่ต่อจากแบตเตอรี่ต้องใหญ่เพราะไฟไหลมากกว่า
สายไฟต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง ถ้าเล็กไปสายไฟจะไหม้แต่ถ้าใหญ่ไปก็เปลืองเงิน สายไฟในรถยนต์จะบอกขนาดเป็น AWG หรือ American wire gauge
ขนาดที่ใช้กันคือ
เบอร์16ทนได้ 6A , เบอร์14ทนได้15A
เบอร์12ทนได้20A , เบอร์10ทนได้25A
เบอร์ 8 ทนได้ 35A , เบอร์6ทนได้50A
ใช้ควบคู่กับ ซอคเก็ต( Socket ) เป็นเสมือนที่เสียบสายไฟเข้าไปหาตัวของ รีเลย์
สายไฟ...
สายไฟฟ้าที่ใช้เดินมีหลายขนาด สายเล็กใช้เดินจากสวิทซ์มาเลี้ยงคอลย์รีเลยเพราะกินไฟน้อยแทบไม่รู้สึกอะไร แต่สายที่ต่อจากแบตเตอรี่ต้องใหญ่เพราะไฟไหลมากกว่า
สายไฟต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง ถ้าเล็กไปสายไฟจะไหม้แต่ถ้าใหญ่ไปก็เปลืองเงิน สายไฟในรถยนต์จะบอกขนาดเป็น AWG หรือ American wire gauge
ขนาดที่ใช้กันคือ
เบอร์16ทนได้ 6A , เบอร์14ทนได้15A
เบอร์12ทนได้20A , เบอร์10ทนได้25A
เบอร์ 8 ทนได้ 35A , เบอร์6ทนได้50A
เริ่มทำการเดินสายไฟให้อุปกรณ์ที่เราต้องการครับ
การเข้าสายไฟที่เรียบร้อยและปลอดภัย
จากแผนผังด้านบนจะเห็นได้ว่า
- ที่เบอร์ 30 จะมีสายไฟ + ไปเข้า นั่นหมายถึงการนำสายไฟที่ลากยาวมาจากแบตฯของเรามาที่ขานี้
- ที่เบอร์ 87 (จะมี 87 สองขั้ว) มีไว้ต่อไปยังอุปกรณ์ที่เราเพิ่มเข้ามาหรือ หลอดไฟหน้า หรือแตร และต่อขั้วลบของอุปกรณ์ไป
ลงกราวน์ที่ตัวถัง หรือขั้วลบของแบตฯ
- ส่วนเบอร์ 85 และ 86 นั้น มีไว้ต่อมาจากสวิทซ์ ไปลงกราวน์ แต่ต้องบรรยายเพิ่มเติมตรงที่ ท่านต้องทราบก่อนว่า อุปกรณ์เก่าเช่น ไฟหน้า แตร สวิทซ์ที่ควบคุมมัน ตัดไฟกราวน์ หรือไฟบวก ยกตัวอย่างไฟหน้ารถเรา สวิทซ์(ถ้าเป็นรุ่นเก่ามีสวิทซ์)จะตัดไฟบวก ให้ท่านนำสายไฟ ที่ต่อจากหลอดเดิม (ในที่นี้ มีไฟสูงต่ำ ต่ำเป็นขาว สูงเป็นสีน้ำเงิน ( การต่อจะเป็นดังภาพถัดไป ) เข้าไปที่ขั้วเบอร์ 86 ของรีเลย์
และ ที่ขั้ว 85 ของรีเลย์ ให้ต่อลงกราวน์ (ตัวถังหรือ ขั้วลบของแบตฯแล้วแต่สะดวก) แต่หากสวิทซ์เป็นตัวตัดกราวน์ให้ต่อกลับกันโดยให้เอาขั้วจากสวิทซ์เดิมเข้าที่ขั้วเบอร์ 85 ของรีเลย์ แล้วขั้ว 86 ลงกราวน์แทน (จะพบกับรถบางยี่ห้อ)
ภาพนี้เป็นส่วนของไฟหน้า
ตามภาพเราจะเห็นได้ว่ามีรีเลย์ สองตัว เพราะมันมีไฟสูง และไฟต่ำ หลักการเดียวกับขางบน แต่ปรับเปลี่ยนเพิ่มนิดหน่อยคือ ให้นำสายสีขาว เข้าขั้วเบอร์ 86 ของรีเลย์ตัวที่ 1 สายสีน้ำเงิน เข้าขั้ว 86 ของรีเลย์ ตัวที่ 2 **
การเข้าสายไฟที่เรียบร้อยและปลอดภัย
จากแผนผังด้านบนจะเห็นได้ว่า
- ที่เบอร์ 30 จะมีสายไฟ + ไปเข้า นั่นหมายถึงการนำสายไฟที่ลากยาวมาจากแบตฯของเรามาที่ขานี้
- ที่เบอร์ 87 (จะมี 87 สองขั้ว) มีไว้ต่อไปยังอุปกรณ์ที่เราเพิ่มเข้ามาหรือ หลอดไฟหน้า หรือแตร และต่อขั้วลบของอุปกรณ์ไป
ลงกราวน์ที่ตัวถัง หรือขั้วลบของแบตฯ
- ส่วนเบอร์ 85 และ 86 นั้น มีไว้ต่อมาจากสวิทซ์ ไปลงกราวน์ แต่ต้องบรรยายเพิ่มเติมตรงที่ ท่านต้องทราบก่อนว่า อุปกรณ์เก่าเช่น ไฟหน้า แตร สวิทซ์ที่ควบคุมมัน ตัดไฟกราวน์ หรือไฟบวก ยกตัวอย่างไฟหน้ารถเรา สวิทซ์(ถ้าเป็นรุ่นเก่ามีสวิทซ์)จะตัดไฟบวก ให้ท่านนำสายไฟ ที่ต่อจากหลอดเดิม (ในที่นี้ มีไฟสูงต่ำ ต่ำเป็นขาว สูงเป็นสีน้ำเงิน ( การต่อจะเป็นดังภาพถัดไป ) เข้าไปที่ขั้วเบอร์ 86 ของรีเลย์
และ ที่ขั้ว 85 ของรีเลย์ ให้ต่อลงกราวน์ (ตัวถังหรือ ขั้วลบของแบตฯแล้วแต่สะดวก) แต่หากสวิทซ์เป็นตัวตัดกราวน์ให้ต่อกลับกันโดยให้เอาขั้วจากสวิทซ์เดิมเข้าที่ขั้วเบอร์ 85 ของรีเลย์ แล้วขั้ว 86 ลงกราวน์แทน (จะพบกับรถบางยี่ห้อ)
ภาพนี้เป็นส่วนของไฟหน้า
ตามภาพเราจะเห็นได้ว่ามีรีเลย์ สองตัว เพราะมันมีไฟสูง และไฟต่ำ หลักการเดียวกับขางบน แต่ปรับเปลี่ยนเพิ่มนิดหน่อยคือ ให้นำสายสีขาว เข้าขั้วเบอร์ 86 ของรีเลย์ตัวที่ 1 สายสีน้ำเงิน เข้าขั้ว 86 ของรีเลย์ ตัวที่ 2 **
รีเลย์ตัวที่
1 จะทำหน้าที่เป็นไฟต่ำ
รีเลย์ตัวที่
2 จะทำหน้าที่เป็นไฟสูง
***
ส่วนขาที่
87 ที่รีเลย์จะมีสองขั้วทุกอัน
โดยการต่อให้ต่อ ขั้วเบอร์ 87
จากรีเลย์ตัวที่ 1
ไปยังไฟต่ำทั้งสองหลอด และต่อจากขั้วเบอร์
87 จากรีเลย์ตัวที่
2 ไปไฟสูงทั้งสองหลอด
และต่อขั้วลบเดิม(สายสีเทา) ไปลงกราวน์ที่ตัวถังหรือขั้วลบของแบตฯ
ฟิวส์ ( Fuse )
( ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอด )
การต่อรีเลย์ทุกครั้งจะต้องผ่านฟิวส์เสมอ ฟิวส์มีหลายขนาด ทั้งแบบใช้ไฟน้อยๆพวกพิวส์หลอดไม่เกิน 10A พิวส์เสียบแบนไม่เกิน 30A ฟิวส์แบบกล่อง ไม่เกิน 50A ทั้งหมดมีหน้าที่เดียวกันคือให้ละลายตัวเองให้ขาดตอนมีเหตุผิดปกติไม่ให้สายไฟและอุปกรณ์ไหม้
( ตัดก่อนตาย เตือนก่อนวายวอด )
การต่อรีเลย์ทุกครั้งจะต้องผ่านฟิวส์เสมอ ฟิวส์มีหลายขนาด ทั้งแบบใช้ไฟน้อยๆพวกพิวส์หลอดไม่เกิน 10A พิวส์เสียบแบนไม่เกิน 30A ฟิวส์แบบกล่อง ไม่เกิน 50A ทั้งหมดมีหน้าที่เดียวกันคือให้ละลายตัวเองให้ขาดตอนมีเหตุผิดปกติไม่ให้สายไฟและอุปกรณ์ไหม้
ดูเอาครับ ขอบคุณแหล่งที่มา aeracingclub อีกเช่นเคย
ขอบคุณข้อมูลที่ผมได้เจอมา จึงได้นำมาเผยแพร่ให้ได้รู้กัน
ไม่เห้นจะมีภาพให้ดูเลย
ตอบลบใช่ครับ ดูภาพประกอบเนื้อหาไม่ได้ครับ
ตอบลบ